ผ่าดวง “แอน สิเรียม” ปีหน้าเตรียมปัง เผยห่วง นนนี่ ในวันที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เชื่อลูกสาวเอาตัวรอดได้

เรียกว่ายังคงความสวยเป๊ะในวัย 52 กะรัต สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ แอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ที่ล่าสุด 23 ก.ย 67 ออกมาเปิดเผยเส้นทางในวงการบันเทิงกว่า 40 ปีกับยุควิกฤตของละครไทย ผ่าดวงกลางรายการปีหน้าเตรียมปัง เปิดชีวิตกับลูกสาวน้องนนนี่ที่ตอนนี้ต้องห่างกันเพราะอะไร ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow ที่มี เบนซ์ พรชิตา เป็กกี้ ศรีธัญญา และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร

วงการบันเทิงเราก็เปลี่ยนไปเยอะมาก เราเจอสถานการณ์ทุกวันนีแล้วเป็นยังไง บ้าง ?

แอน : เราก็จ๋อยๆนะ แอนก็ยังรับเล่นอยู่นะ แต่ตอนนี้แอนยังไม่มีละครเลย เพราะว่าด้วยจุดเปลี่ยนตรงนี้ อย่างแม่ตุ๊ก ดวงตาก็บอกว่าไม่มีละครมาปีนึงแล้ว เป็นจุดเปลี่ยนของวงการด้วย ช่องมีหลากหลายมากขึ้น คนดูได้ในหลายทางทั้งโซเชียลออนไลน์ เราไม่สามารถทำไอะไรได้เราแก้ไขได้แต่ตัวเราเองเราก็ต้องเปลี่ยนการทำงานของเราให้มันเปิดกว้างมากขึ้น เข้าถึงในทุกโซเชียลมากขึ้น

พอมาถึงยุคนี้พี่แอนว่าเป็นวิกฤตมั้ย ?
แอน : ก็วิกฤตนะคะ เราก็ต้องปรับตัว แอนก็พยายามเล่นสื่อให้มากยิ่งขึ้น

มีอีกเรื่องที่ไม่ตกเทรนด์เลยคือเรื่องเปิดไพ่ ?
แอน : ช่วงนี้ละครไม่มีก็ต้องเปิดไพ่ดู ต้องให้แม่หมอช่วยบ้าง แอนมีความรู้สึกว่ามันเปิดทุกๆ 3 เดือน มันช่วยในการตัดสินใจ ดีมั้ยหรือไม่ดี แต่ไม่ถึงกับทุกศาสตร์ เห็นเขามูกันก็ลองดูบ้างจากคนที่ ไม่เคยมู

พี่แอนพร้อมมั้ย ?
ซินแสเป็นหนึ่ง : เราได้วันเดือนปีเกิดมาแล้ว พี่แอนเกิดปีกุน 3 ปีที่ผ่านมาของพี่แอนมีความวุ่นวายมันมีหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสารและเรื่องราวต่างๆและมีเรื่องต้องตัดสินใจมาถึงปีนี้ ปี 2567 ก่อนเดือนธันวาพี่ต้องมีเรื่องตัดสินใจบางอย่างซึ่งเป็นเรื่องตัดสินใจที่ดีมันจะเป็นการตัดสินใจที่ทำให้พี่แอนได้เงินก้อนใหญ่ แล้วเป็นช่วงจังหวะที่ดีจะมีเรื่องของทรัพย์สินเข้ามาเกี่ยวข้องหรือเรื่องใดๆที่เรารอคอยมานาน ปีนี้จะเป็นปีที่สมหวังในเรื่องนี้ เนื่องจากพี่เกิดปีกุนปีที่ผ่านมาปีนี้พี่เคลียร์คนออกไปจากชีวิตเยอะมาก พี่หนีบคนออกเพราะพี่มีความรู้สึกว่า ณ วันนี้พี่ไม่อยากวุ่นวายใจกับใครแล้วที่สำคัญเริ่มอิสระมากขึ้นในหลากหลายมุม ปีนี้เป็นปีที่โชคดีของพี่ในหลายสิ่งตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพี่เตรียมตัวเลย จากนี้เป็นต้นไปอะไรก็ตามคุณจะได้ทำในสิ่งที่คุณไม่เคยทำเพราะดวงคุณเฉิดฉายโหงวเฮ้งคุณดี

แอน : ปีหน้าแอนจะชงจริงมั้ย ซินแสเป็นหนึ่ง : ปีหน้าเป็นปีมะเส็งเขาบอกว่าปีกุนชง 100% คนเกิดปีกุนจะกังวลใจมาก จริงๆแล้วคำว่าปีชงคุณชงก็จริงแต่คุณอาจจะชงขึ้นนะจากโหงวเฮ้ง ชงขึ้นคือชีวิตขาขึ้นไม่ใช่ขาลง พี่แอนพีปีหน้าปีกุนอยู่ในลิสต์ของปีชงก็จริงแต่พี่ชงขึ้นคนที่เกิดปีชงในปีหน้าช่วงเดือน 10 11 12 สามเดือนนี้จะเป้นสามเดือนที่หน้าระทมเหลือเกินแล้วต้องบอกว่าไม่ว่าคิ้วตาจมูกปากของพี่จะเสริมให้ปีหน้าโหงวเฮ้งแบบนี้ยังไงก็ดี ต้องบอกว่า 3 ปีที่ผ่านมาพี่วุ่นวายเรื่องเอกสารมันตามหาของที่มันหายไปเจอแล้วทุกเรื่องราวเคลียร์หมด แต่มาปีนี้เป็นปีที่พี่รู้สึกว่าพี่มีเรื่องให้ต้องตัดสินใจก่อนเดือนธันวาแต่เป็นการตัดสินใจที่ดีเช่น ฉันมีที่อยู่ที่หนึ่งฉันไม่จำเป็นรู้สึกไม่อยากได้แล้ว แล้วพี่จะได้เงินตรงนั้นมาในมูลค่าที่พี่พอใจก่อนเดือนธันวาหรือมีจุดเปลี่ยนในชีวิตที่มันจะดีขึ้น ตั้งแต่ปีนี้เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปพี่รุ่งไป 5-6 ปี

เรื่องลูกสาวอยากอยู่กับลูกแต่จะมีเรื่องให้ห่างไกล ?
แอน : ตอนนี้ก็อยู่ไกลค่ะ ตั้งแต่แอนเด็กๆมีลูกหมอดูชอบถามแอนว่าถ้ามีลูกจะต้องอยู่ห่างๆกันนะจะดีกว่าอยู่ใกล้ๆกันเพราะอยู่ใกล้ๆกันจะตีกันตลอด

ซินแสเป็นหนึ่ง : ในความเชื่อของคนจีนเมื่อไหร่ก็ตามที่เจอคนนิสัยเดียวกันโดยส่วนใหญ่คนที่มีลูกลูกก็จะก๊อปปี้ในความเป็นนิสัยเรา แล้วพอคนนิสัยเดียวกันมาอยู่ด้วยกันเหมือนเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้เป็นอารมณ์เดียวกัน แสดงว่าน้องกับพี่มีความนิสัยเดียวกันแต่พอแยกกันอยู่รักกันมากขึ้น แอน : พอน้องทำงานไปอยู่เชียงใหม่ได้งานทำที่ AOT ประจำอยู่ที่เชียงใหม่

น้องเกิดปีอะไรคะ ?
แอน : ปีชวด ซินแสเป็นหนึ่ง : ปีชวดปีหน้าจะมีโอกาสที่เดินทางไกล ให้เขาตัดสินใจแต่จะเป็นโอกาสครั้งสำคัญ เขาจะมาปรึกษาแม่ พี่แอนห้ามปฎิเสธแล้วต้องเปิดโอกาสให้น้อง ครั้งนี้เป็นการสร้างชื่อเสียงและเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับเขา

แอน : พอเขาอยู่ห่างเราเขาจะโทรหาเราเยอะขึ้น ก็จะเท็กซ์มาปรึกษากันมากขึ้น ไม่ได้ถึงกับติดลูก จริงๆเป็นคนชอบอยู่คนเดียวเป็นคนที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง บางทีก็คิดถึงเราก็มีลูกคนเดียว เราก็เหงาเหมือนกัน แล้วเราก็แก่ขึ้นด้วยไง

พูดอะไรถึงลูกสาว ?
แอน : เรา 2 คนมีอะไรที่แปลกอย่างหนึ่งคือเวลาที่อยู่ด้วยกันจะไม่ค่อยได้พูดแต่ว่าน้องจะเป็นคนชอบเขียนมากกว่าแล้วก็ส่งให้เรา บางทีเราก็รู้สึกว่าเราไม่ค่อยได้มีโอกาสเลี้ยงดูเขาใกล้ชิดตอนที่เขายังเด็กๆ แต่ตอนนี้เขาโตแล้วทำงานแล้วความห่วงในระดับหนึ่ง แอนเชื่อว่าเขาเอาตัวรอดในงานของเขาได้แหละ แต่สิ่งที่ห่วงคือเขาจะเป็นคนที่บอบบางนนนี่เป็นคนใจดีแล้วเขาลูกคนเดียวเขาก็จะรักเพื่อนก็เป็นห่วงเขาในเรื่องนี้มากกว่า บอกเขาทุกครั้งว่าแม่รักลูกนะจะรักที่สุดเราก็มีเขาแค่คนเดียว มันไม่รู้จะพูดยังไง บางทีมันจะพูดมันก็พูดไม่ออก ส่วนมากชอบบอกกันในไลน์ไม่ค่อยได้บอกกันซึ่งๆหน้า บอกผ่านรายการไปเลยว่ามีเขาอยู่คนเดี่ยวรักเขามากที่สุด