ปิ่น เก็จมณี เปิดใจหลังหย่า เจ เจตริน ดีใจเป็นนางสาวครบ 1 ปี

หลังปิดฉากความรักเกือบ 30 ปี ขอเป็นเพียงพ่อแม่ที่ดีของลูก ก็ดูเหมือนว่า ปิ่น เก็จมณี พิชัยรณรงค์สงคราม กับอดีตสามี เจ เจตริน วรรธนะสิน จะยังไม่เคยออกมาพูดเรื่องนี้ให้ใครหลายคนได้ฟังกันแบบชัด ๆ ทว่าล่าสุด “ปิ่น เก็จมณี” ได้มาเปิดใจเล่าครั้งแรกใน WOODY FM หลังกลับมาใช้ “นางสาว” อีกครั้ง พร้อมวินาทีตัดสินใจหย่าให้ฟังด้วยว่า‭
‬ ‭
‬ คิดว่าอะไรคือสิ่งที่คนอาจจะเข้าใจผิดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเราไม่ได้ออกมาพูด?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : ปิ่นไม่รู้นะว่าเข้าใจผิดเรื่องอะไร เพราะเรารับแต่พลังบวก ก็เลยไม่ค่อยได้ทราบว่าเขาเข้าใจอะไรผิดกันบ้าง แล้วก็เหมือนมีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้น จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรไม่ดีสักเท่าไร อาจจะมีบ้าง ซึ่งเป็นธรรมดาของมนุษย์ ปัญหาครอบครัวก็ต้องมีอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็เป็นนางสาวครบ 1 ปีพอดี (หัวเราะ) ได้กลับมาเป็นสาวอีก ครั้ง‭
‬ ‭
‬ กี่ปีแล้วที่คบกัน?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : ตั้งแต่ 1995 เกือบ 30 ปี เป็นแฟนกันมานานมาก‭
‬ ‭
‬ วู้ดดี้เชื่อว่าภาพนี้ไม่ใช่ภาพที่ปิ่นคิดว่าจะเกิดขึ้น?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : ไม่คิดเลย ไม่เคยคิดเลย เพราะว่าเป็นคนที่มีความฝันที่จะมีครอบครัว มีความสุขเหมือนผู้หญิงทั่วไป เนื่องจากว่าครอบครัวตัวเองมีการหย่าร้างเกิดขึ้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่เรา 2 ขวบ ก็เลยมุ่งมั่นมากว่าเราจะทำครอบครัวให้เพอร์เฟกต์ อบอุ่น ไม่ว่าเราจะต้องเสียสละอะไร เราจะทำให้ถึงที่สุดตลอดชีวิต แต่ระหว่างทางมันก็ขรุขระ ไม่ได้สวยงาม ไม่ได้แบบทุ่งลาเวนเดอร์หรอก แต่ด้วยเราเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างจะหาเรื่องยิ้มทุกวัน หาเรื่องสนุกทุกวัน หาเรื่องมีความสุขในความทุกข์ก็ได้ มันก็ผ่านมาได้ด้วยดีเรื่อยๆ‭
‬ ‭
‬ วินาทีที่ต้องตัดสินใจ?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : มันน่าจะไม่ใช่วันนั้น มันเป็นอะไรที่มาเรื่อยๆ ค่อยๆ มา จนสุดท้ายถึงวันที่เราตัดสินใจด้วยสติ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง รวมทั้งหมดแล้วเราคิดว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่า เป็นพ่อเป็นแม่ของลูกกันดีกว่า ในเวลาที่ลูกพร้อมแล้วด้วย ในเวลาที่ทุกคนมีความสุข‭
‬ ‭
‬ แล้วเขาตกลงเลยไหม?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : มันก็ใช้เวลาเป็นปีๆ นะ มีหลายครั้งที่เราคุยกันเรื่องนี้ตั้งแต่หลายปีว่าแยกกันไหม หรือยังไงดี ก็ไม่เคยที่จะแยกกัน สุดท้ายแล้วก็กลับมา ก็ดีขึ้นทุกครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายที่พอคุยกันแล้วเขาบอกโอเค ก็ตกใจเหมือนกันนะ ไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้ โอเคได้เลย เดี๋ยวนัดวันมาอาจจะเพราะเรื่องราวที่สะสมจนอึดอัดหรือเปล่า ‭
‬ ‭
‬ ความรู้สึกเป็นยังไง?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : ก็เหมือนไลฟ์สไตล์มันต่างกันออกไปเยอะมาก จากที่เราเคยสนุกด้วยกันตั้งแต่เด็ก เพราะเราคบกันสนุกมาก เราบู๊ล้างผลาญด้วยกัน เราเล่นกีฬาด้วยกัน ไปที่ไหนก็ไปด้วยกัน แต่ตอนหลังมาอาจจะเรื่องของสุขภาพของปิ่น ที่ปิ่นใส่สะโพกเทียมไปซนด้วยไม่ได้แล้ว เขาก็คงจะต้องไปสนุกของเขา ปิ่นก็สนุกของปิ่น เวลาทำงานก็ไม่ตรงกัน เขาก็ทำงานกลางคืน เราก็จะต้องนอน ก็ต้องดูแลไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของเรา ลูกของเรา เวลามันก็ต่างกันแล้ว ก็เลยค่อนข้างที่จะห่างกัน แต่ก็เหมือนพยายามจะกลับมาหาอะไรทำที่เหมือนๆ กัน ร่วมกันได้บ้าง มันก็คงน้อยลง‭
‬ ‭
‬ ตอนนั้นเพื่อนส่งข้อความมาหาเยอะไหม?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : เยอะมาก อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง เพราะว่าบางทีมันจี๊ดอะ ยิ่งคนมาโอ๋มันยิ่งร้องไห้ แบบไม่อยากร้องแล้ว‭
‬ ‭
‬ แปลว่าร้องไห้มาเยอะ?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : เฮ้อ! จะบอกว่าไม่เยอะก็ไม่ได้ มันก็เป็นวันๆ เนอะ บางทีแบบวันนี้แฮปปี้จังเลย เหมือนไบโพลาร์ อีกวันหนึ่งคือร้องไห้อย่างบ้าคลั่งอยู่คนเดียว‭
‬ ‭
‬ หลายคนเลือกที่จะไม่แยกแล้วอยู่ต่อเพราะลูก แต่เราคิดว่าในยุคสังคมที่เปลี่ยนไปแล้วลูกที่โตขึ้นก็ต้องทำความเข้าใจมากขึ้น อยากจะรู้ในมุมมองของลูกแต่ละคน จะมีผลกระทบไหม?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : แน่นอนค่ะ สิ่งแรกที่คิดถึงคือลูก แล้วก็เราคุยกันมาโดยตลอด ลูกรู้ทุกอย่างตลอดเวลา เราเป็นเพื่อนกัน‭
‬ ‭
‬ แล้วลูกดูแลคุณยังไงในโมเมนต์ที่เราพีกที่สุด ?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : ดูแลอย่างดีทุกคน น่ารักมาก ลูกกลายเป็นผู้ใหญ่ไปเลย ตอนที่เราไม่อยู่บ้าน ลูกก็ดูแลสัตว์เลี้ยงให้เราด้วย (หัวเราะ) โดยเฉพาะเจ้าขุน อยู่กับหมาจนนิสัยเหมือนกัน (หัวเราะ) เพราะปิ่นเป็นคนระเบียบมาก มีกฎเกณฑ์ทุกอย่าง แต่พอเราออกจากบ้านไป ขุนก็รับอาสาดูแลให้ ก็คือเอาหมามาบ้านคุณแม่บ้าง อยู่กับขุนบ้าง แต่เจออีกทีหมาเสียหมาหมดเลย (หัวเราะ) คำนี้ได้ใช้เลยอะ ขุนก็บอกว่าก็นิสัยเหมือนขุนอะมัม เละตุ้มเป๊ะยังกับผ้าขี้ริ้ว‭
‬ ‭
‬ ตอนที่ปิ่นจับเข่าคุยกับลูก คุยพร้อมกันทั้ง 3 คนเลยไหม หรือแยกกันคุย?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : ก็มีบ้างค่ะ แยกกันบ้าง มันจะเป็นอะไรที่ค่อยๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ แล้วลูกก็เห็นมาทุกอย่างเลย แต่ก็เคยที่คุยว่าจะเป็นเพื่อนกันนะ ซึ่งเขาก็บอกเขายังไม่พร้อม ขอเข้ามหาวิทยาลัยก่อนได้ไหม จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้พูดกับเราโดยตรงนะ แต่เขาแอบพูดกับคนอื่น แล้วคนอื่นมาเล่าให้ฟัง บางคนก็พร้อม บางคนก็ยังไม่พร้อม‭
‬ ‭
‬ รู้เหตุผลไหม?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : ด้วยความรู้สึกที่เขาอยากตั้งใจเรียนก่อน เขาอยากทำงานแบบมีสมาธิ อยากเป็นผู้ใหญ่ก่อน เมื่อเขาพร้อมเขาจะบอก พอเขาบอกเราก็เลยโอเค‭
‬ ‭
‬ แปลว่าคุณรอ?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : รอๆ รอมาหลายปี‭
‬ ‭
‬ ดังนั้นคือไม่ใช่เรื่องฟ้าผ่า?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : คือไม่ใช่เรื่องตื่นเต้นเลย แต่ว่าเราเป็นคนไม่ชอบประกาศให้โลกรู้‭
‬ ‭
‬ เป็นครอบครัวที่ให้ความบันเทิง ลูกทั้ง 3 คนก็โตมากับพี่น้องชาวไทย เราคิดว่าถ้าเขาโอเคไปต่อได้ก็หมดห่วง?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : เจ้านาย เจ้าขุน เจ้าสมุทร ก็ไปได้ด้วยดีมากตอนนี้‭
‬ ‭
‬ เจ้าสมุทร รู้ตัวหรือยังว่าเขาจะเป็นอะไร? ปิ่น เก็จมณี : เขาก็ชอบทุกอย่างเหมือนพี่ แต่เหมือนหลายคนไปเตือนเขาว่าชอบจริงหรือเปล่า ใช่เหรอ จนเขาสับสน ไปๆ มาๆ เขาก็เลยไปสนใจทางด้านถ่ายรูปแล้วตอนนี้ก็อินมาก นั่งอยู่ได้เป็นวันๆ‭
‬ ‭
‬ ตอนนี้เป็นห่วงคนไหนที่สุด?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : ไม่ห่วงค่ะ คือห่วงไปตามวัย ตามแต่ละคน แต่ละเรื่อง ก็แสบกันคนละแบบ ด้วยความที่เราสนิทกันมาก เพราะฉะนั้นก็คุยกันทุกสเตปอยู่แล้ว‭
‬ ‭
‬ เขาเล่าให้คุณแม่ฟังทุกอย่างไหม? ปิ่น เก็จมณี : ทุกอย่างจนไม่อยากจะฟังอะ (หัวเราะ) บางทีแบบฉันไม่ต้องจินตนาการเลย ก็เล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว ก็สนุกดี ก็มีทุกอารมณ์ ทุกรส แล้วก็จะมาปรึกษาว่าทำแบบนี้ดีไหม คนนี้เป็นยังไง เวลาไปหึงเขาแล้วเขาก็โกรธ เราหึงได้ไหม งอนได้ไหม หรือว่าไปขอโทษยังไงดี ง้อยังไง ก็คุยกันหมดทุกอย่าง‭
‬ ‭
‬ ตอนนี้คุณตกลงว่าจะแบ่งกันยังไงในการดูแลลูก ?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : ก็สลับไปมา ก็ยังเป็นเพื่อนกัน‭
‬ ‭
‬ ตอนนี้เป็นนางสาวแล้ว เริ่มมีความรู้สึกกับผู้ชาย คนอื่นบ้างหรือยัง?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : เรียนตามตรงเลยว่าไม่เอาเลย แล้วไม่มีใครมาจีบด้วย คือความที่เรามีแฟนมาคนเดียวเกือบ 30 ปี อยู่ๆ จะให้เรามีคนคุย ก็มีทอม มีอะไรมาบ้างนิดๆ หน่อยๆ เราก็รู้สึกไม่คุ้นอะ คุยกับลูกแล้ว ลูกก็บอกว่าอยู่เฉยๆ เถอะมัม เพราะว่าตัวเองตามพวกผู้ชายเขาไม่ทันหรอก เดี๋ยวก็ร้องไห้ เดี๋ยวก็เศร้า เดี๋ยวก็โดนหลอกอีก‭
‬ ‭
‬ หลายๆ คนไม่ทราบว่า ปิ่น ค่อนข้างที่จะเปิดกว้างมากในแง่ของความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรก็ตาม?‭
‬ ปิ่น เก็จมณี : ได้ค่ะ ลูกเข้าใจ คือตลอดเวลาลูกๆ อยากให้อยู่เฉยๆ แต่เขาก็เหมือนสงสารแม่ กลัวแม่เหงา เพราะว่าไม่มีใครเลย ก็อยากให้แม่มีเพื่อนคุย ให้แม่กระชุ่มกระชวยบ้าง แต่สุดท้ายแล้ว เจ้านายบอกว่า ถ้าแม่มีแฟนจริงๆ นะ เจ้านายกัดลิ้นตายดีกว่า (หัวเราะ) แล้วจะมาอนุญาตฉันทำไม อยู่เฉยๆ ฉันก็มีความสุขดี ขุนก็บอกขุนคงต่อยเขา สมุทรก็บอกไม่โอเค แล้วใครจะกล้าเข้ามาเนี้ย! พูดขนาดนี้ แต่เอาจริงๆ เราก็มีความสุขแล้ว อยู่กับลูกที่น่ารักทั้ง 3 คน แล้วเพื่อนๆ ก็น่ารัก ครอบครัวปิ่นก็อบอุ่นมาก‭
‬ ‭