หลายคนยังคงให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องกรณีที่นักร้องหนุ่ม เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร ถูกคนทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดจนได้รับบาดเจ็บ มีแผลบริเวณใต้คางและหัวไหล่ซ้าย แต่หลังจากนั้นเมื่อเปิดกล้องวงจรปิดในช่วงเกิดเหตุก็พบว่าที่จริงแล้วนักร้องหนุ่มเกาะกระจกหน้ารถกระบะคันหนึ่ง และพอรถกระบะคันดังกล่าวขับเข้าปั๊มน้ำมัน และมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่เข้ามาช่วย แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าเป๊กกลับมีปัญหากับชายหนุ่มแทน ก่อนถูกนำตัวส่ง รพ. ล่าสุด 5 ส.ค.68 “วิเชียร ฤกษ์ไพศาล” หรือ “นิค” อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานมิวสิค โปรดักชั่น และโปรโมชั่น บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง genie records ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องราวของ เป๊ก ผลิตโชค พร้อมสรุปให้ชาวเน็ตได้อ่านผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุข้อความว่า มีหลายท่านเห็นคลิปแต่ไม่ได้ตามข่าว ผมเลยขอสรุปเรียงลำดับเหตุการณ์คร่าวๆ กรณีของ “เป๊ก ณ ปั๊ม” ดังนี้ครับ 1.เริ่มต้นที่เป๊กสังสรรค์กับเพื่อน น่าจะเลี้ยงวันเกิดเป๊กล่วงหน้า ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งถึงเที่ยงคืน จากข่าวมีทั้งไวน์ ทั้งโซจูและเพื่อนยังสั่งเบียร์มาอีก 6 ขวด เป๊กดื่มเท่าไหร่ แต่คงหลายขนาน เพราะจากเหตุการณ์ต่อมารู้ชัดว่า…น้องเมามาก! 2.น้องเป๊กเมาขาดชนิดที่สามารถทำอะไรแปลกๆ ได้ในสภาพที่ตรงกันข้ามกับนิสัยส่วนตัวเวลาปกติ เรียกว่าถ้าได้สติคงตกใจมาก ก็จากคลิปมีทั้งนั่งหลับข้างทาง ทั้งเดินดุ่มๆ แถมไปยืนขวางถนน ปีนป่ายขึ้นไปบนรถ Taxi สุดท้ายขึ้นไปฟุบเหมือนจะอยากหลับบนกระโปรงรถกระบะ 3.รถกระบะคงตกใจ จึงขับรถอย่างระวังแล้วรีบเลี้ยวเข้าปั๊ม และเรียกให้เป๊กลงจากฝากระโปรงรถอย่างงงๆ กับเหตุการณ์ แน่นอนว่าทั้งกลัวทั้งไม่พอใจ แต่ไม่ขอ selfie 4.แม้จะยังเมาไม่รู้เรื่อง แต่ด้วยสัญชาตญาณแบบอัตโนมัติ (เหมือนคนเมาที่กลับบ้านได้แต่จำอะไรไม่ได้) แวบหนึ่ง… จึงกราบและกอดขอโทษโชเฟอร์รถกระบะด้วยความรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำไป 5.เรื่องน่าเคลียร์กันได้ หรืออาจจะจบลงแค่นั้น ถ้าหากคนขับรถของเป๊กตามมาทันและพาเป๊กขึ้นรถกลับบ้านไป แต่บังเอิญมีไรเดอร์ผู้เห็นเหตุการณ์ในปั๊ม ปรี่เข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะพลเมือง ดี 6.หนุ่มไรเดอร์ผู้ที่อ้างว่าเจอขี้เมาอาละวาดเป็นประจำในยามค่ำคืน (เป็นเหตุผลที่ต้องพกมีดไว้เผื่อป้องกันตัว) ครั้งนี้ก็คงเข้าใจว่านี่ก็คือขี้เมาอีกคนที่กำลังป่วนประสาทและอาจจะทำร้ายคนขับรถกระบะ จึงพุ่งเข้าไปพูดจาและคงน่าจะต่อว่าอะไรแรงๆ เพราะดูจากแฟนตัวเองก็พยายามยื้อยุดไว้ และตัวเป๊กก็ปรี๊ดมีปฏิกิริยาทันที 7.เป๊กที่ยังเมามายแม้ไม่มีสติแบบคนปรกติ แต่จิตใต้สำนึกและสัญชาตญาณคงฟังออกว่าไรเดอร์…พูดจาไม่เข้าหู จึงพุ่งเข้าชนวิ่งเข้าใส่ เป๊กเหวี่ยงหมัดกวัดแกว่งแขนแบบสะเปะสะปะไม่เป็นมวย โดนบ้างไม่โดนบ้าง 8.ไรเดอร์หลบหลีกแบบไม่ทันตั้งตัว แถมไม่รู้ด้วยว่าหมอนี่คือเป๊ก หรืออาจจะคุ้นๆ แต่ก็ตกใจและไม่พอใจซะก่อนที่โดนต่อย จึงตอบโต้และรีบงัดมีดพกออกมาฟาดฟันป้องกันตัวไว้ก่อน บังเอิญมีดปาดไปโดนคางเป๊ก สุดท้ายน้องล้มนอนฟุบแน่นิ่งกลางปั๊ม ไรเดอร์ที่กำลังโกรธเลยกระทืบซ้ำกระหน่ำ Teen ใส่เป๊กอย่างสะใจไปหลายที ณ เวลานั้นเราได้คนขาดสติอีกคนโดยไม่ต้องเมา 9.จากทีแรกจะเป็นพลเมืองดีคิดเข้าช่วยโชเฟอร์รถกระบะ กลับกลายเป็นคู่กรณีผู้ก่อเหตุไปซะงั้น ต้องข้อหาทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บและพกพาอาวุธในที่สาธารณะ…(ไรเดอร์ให้สัมภาษณ์ภายหลัง…รู้สึกผิดที่ทำเกินกว่าเหตุ พร้อมกราบขอโทษเป๊กออกสื่อ) 10.เป๊กที่บาดเจ็บแน่นิ่งไปสักพัก โดยไม่มีใครไปดูดาย ด้วยความยังเมามายแต่ยังมีแรงทำให้ไม่รู้ตัวว่าเป็นผู้บาดเจ็บ อยู่ๆ เฮียก็ลุกขึ้นมาวิ่งไล่ผู้ชายอีกคนอย่างงงๆ คนในปั๊มก็งงๆ ไรเดอร์คู่กรณียิ่งงงใหญ่ เพราะน้องเป๊กวิ่งผ่านหน้าไปอย่างไม่สนใจและน่าจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเพิ่งปะทะกัน (ใครเคยเมาหรือเห็นคนเมาคงเข้าใจว่าอาการ) 11.หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็น่าจะคลี่คลาย เฮียน่าจะเริ่มสร่างเริ่มรู้สึกตัว เพราะข่าวว่าร้องขอความช่วยเหลือจากอาการบาดเจ็บจบลงที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่มา และพากันไปโรงพยาบาล เรื่องนี้คงยังไม่จบ อนาคตของเป๊กก็คงจะยังไม่จบ เชื่อว่านุชส่วนหนึ่งคงให้อภัย คอนเสิร์ตอาจจะจบไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่ ส่วนบทความนี้ก็คงยังไม่จบ ด้วยรักและเป็นห่วงน้อง จึงคิดว่าต้องเขียนเพิ่มเติม มีความในใจบางอย่างอยากจะบอกกล่าวในฐานะที่เคยเกี่ยวข้อง ขอเวลาตั้งสตินิดหนึ่ง หมายเหตุ : คนล้มอย่าข้าม เชื่อว่าเป๊กก็คงเสียใจไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น หากมีความเห็นกรุณาเมนต์อย่างสุภาพ ดราม่าเยอะแล้ว