หลังมีภาพความสนิทสนมสวีทหวาน ฟีลแฟน สำหรับคู่พระนางร่วมช่อง อย่าง “เจมส์ มาร์”กับ “พาย รินรดา” ในทริปไปเที่ยวเกาหลีด้วยกันที่ผ่าน จนทำให้แฟนๆอดสงสัยไม่ได้ว่าหรือทั้งคู่กำลังคบหาดูใจกันอยู่หรือเปล่า ล่าสุดเมื่อวานนี้ 11 พ.ค 66 ในงานแถลงข่าว TQM & BKI คุ้มครองทุกความสำเร็จของมนุษย์เงินเดือน ไม่ต้องเสียเวลาให้แฟนๆตามลุ้นให้เหนื่อยเพราะหนุ่มเจมส์ มาร์ ได้ออกมาเปิดใจแบบจัดเต็มไม่มีกั๊กยอมรับตัดสินใจขอก้าวข้ามเฟรนด์โซนแล้ว โดยเจ้าตัวได้เผยว่า "หลังจากละครจบ ก็มีโอกาสได้ไปเที่ยวด้วยกัน เลยทำให้ได้รู้จักกันมากขึ้น และรู้สึกว่า พาย ก็มีตัวตนที่น่ารักมากกว่าแค่เพื่อนร่วมงานที่ดี เลยตัดสินใจขอก้าวข้ามเฟรนด์โซน เพื่อจะได้ใช้เวลาคุยกัน ทำความรู้จักกัน ซัพพอร์ตกันและกันให้มากขึ้นด้วย ผมไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะมีคำๆนั้น แต่ตัวเราไม่อยากใช้ เพราะเรารู้สึกว่าเรารู้จักเขามานาน แล้วมันก็อาจจะไม่ใช่แบบคำนั้นทีเดียว แต่มันคือการขยับความสัมพันธ์ที่แบบใกล้ชิดกันมากขึ้น ได้คุยกัน ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน ก็พัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นไปครับ ความน่ารักของน้องพาย คือ เขาเป็นคนเก่งมาก แล้วเขาเป็นคนที่ถ่อมตัว เป็นคนจิตใจดี ดูแลทุกคน ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เขาทำให้เราอยากจะรู้จักมากขึ้น ซึ่งผมเป็นคนสารภาพกับเขาว่าเรารู้สึกอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่โมเมนต์ที่หวือหวามันแบบเราตื่นมาวันหนึ่งแล้วเรารู้สึกว่าอากาศมันเปลี่ยน เราก็บอกเขาว่า 5 ปีที่ผ่านมาที่เรารู้จักกัน แล้วเรารู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สม่ำเสมอ มีแต่สิ่งดีๆอยากจะทำให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ นานๆ เขาก็มีรีแอคแบบอึ้งๆ ด้วยคำพูดที่ผมใช้ เขาอาจจะงงๆ หน่อยนึง แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า เขาก็ยินดี เขาก็ไม่ได้มาถามว่าจีบหรือเปล่า อาจจะเป็นเพราะรู้จักกันมานาน มันก็เลยข้ามคำว่าจีบไปแล้ว แต่ทั้งหมดทั้งมวลเราก็บอกให้ผู้ใหญ่ หรือคนรอบข้างที่สำคัญ ไปตามตรงตามความจริง ต้องยอมรับว่าตอนนี้ก็มีความพิเศษมากขึ้น มีความเขินๆ มากขึ้น เป็นความรู้สึกที่ดี แต่ด้วยความที่รู้จักกันมา 5 ปี มันก็ทำให้ชีวิตประจำวันค่อนข้างเหมือนเดิม มีการพูดคุยกันเหมือนเดิม คำจัดกัดสถานะตอนนี้ผมไม่เคยคิด แต่ว่าถ้าต้องพูดตอนนี้ ก็คือ "คนพิเศษ" จะเรียกว่า "คนของใจ" ก็น่ารักดี ปกติก็เรียกเขาว่าน้อง เขาก็เรียกเราว่าพี่เจมส์ ยังไม่มีชื่อที่ตั้งกันเอง 2 คน คลั่งรักไหม ผมว่าอาจจะเป็นในรูปแบบมินิมอล คือไม่ได้แบบชัดมากในมุมของการปฏิบัติ แต่ว่าลึกๆ ข้างในเราก็รู้สึก มันก็ไม่ได้หวือหวามาก คนรอบข้างก็ยินดีด้วย ก็ได้บอกผู้ใหญ่ คนรอบข้าง เพื่อนๆ ไปประมาณนึง ทุกคนก็ดีใจที่เราได้มีโมเมนต์นี้ เพราะเขาก็บอกว่าอายุจะ 30 แล้ว น่าจะมีได้แล้ว แล้วพอรู้ว่ามีกับน้องเขาก็ยิ่งยินดี ตอนนี้ก็ไปเรื่อยๆ เราไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าแฟนได้ไหม อาจจะใช้คำอื่นที่มันตรงกับความรู้สึกเรามากกว่าครับ"