เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 13 ก.พ. ที่ ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนเลขที่ 20/2568 คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง เพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงตามหนังสือเชิญบุคคลเข้าให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ นายเอกพันธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเกี่ยวกับการที่ตนได้เจอร่างน้องแตงโมในวันแรก เพื่อให้ข้อมูลเรื่องสรีระน้องแตงโมว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรตรงไหนหรือไม่ที่มันผิดไปจากอุบัติเหตุ หรือว่าการใด เพราะตนเป็นคนแรกที่เอาร่างน้องแตงโมมาพลิกในส่วนของสรีระทั้งหมดว่าตรงไหนมีอะไรผิดปกติบ้างเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายรูปไว้เป็นพยานหลักฐานต่าง ๆ หากตกเรือแล้วเจอใบพัดเรือ ตกไปในน้ำแล้วเสียชีวิต จะเป็นใบพัดเรือตรงไหน ซึ่งตนได้เปิดทุกอย่างในร่างกายของน้องแตงโม ก็ได้เจอบาดแผล ซึ่งตนจำได้ว่าร่างน้องแตงโมมีอะไรบ้างที่ติดหรือโดนของแข็ง หรือของมีคม หรือตรงไหนมีรอยขีดข่วน ตนจำได้ เพราะตนได้นั่งอยู่กับร่างน้องประมาณ 1 ชม. จากที่เกิดเหตุไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ นายเอกพันธ์ เปิดเผยอีกว่า การที่ตนจำได้เพราะเป็นคนได้พลิกร่างน้องจากคำสั่งเจ้าหน้าที่ สั่งเปิดผม เปิดหน้า บีบปาก เอาแขนกางเอาขากางเพื่อดูร่องรอยบาดแผล ตนทำเยอะและนานจนจำได้ว่าร่างน้องมีอะไรตรงไหนบ้าง อย่างไรก็ตาม ในครั้งแรกที่ตนออกมาให้ข่าวสื่อมวลชน มันมี 1 จุดที่น่าสงสัยว่าอาจไม่ได้โดนใบพัดเรือ คือ ช่วงโคนขาขวา เพราะมันรอยยาวและลึกมากจนเห็นเนื้อยุ่ย ซึ่งตรงนี้น่าจะทำให้เสียชีวิต เพราะพอตกลงน้ำก็ว่ายน้ำไม่ไหวเพราะบาดแผลนี้ได้ แต่ตนก็มาฉุกใจคิดว่ามันไม่น่าใช่ใบพัดเรือ เพราะเท่าที่ตนสัมผัสงานกู้ภัยมาเยอะ การโดนใบพัดเรือ แผลจะไม่ใช่ลักษณะแบบนี้ ตนเลยคิดว่าน่าจะเป็นประเด็นเรื่องบาดแผลได้ ค่อนข้างมั่นใจว่าพิรุธสุดแล้ว อีกทั้งยังมีเรื่องรอยขีดข่วนลักษณะเป็นรอยก้างปลาที่ก็ไม่ลึกพอ และยังมีจุดข้างน่องขาขวามีเหมือนของแหลมแทงเข้าไป มีไขมันออกมากับเนื้อ จึงเรียกได้ว่ามีจุดพิรุธ 2 จุดนี้ที่ใหญ่สุด คือ โคนขาขวาด้านใน และข้างน่องขาขวา นายเอกพันธ์ เปิดเผยอีกว่า วันนี้ตนจะตอบดีเอสไอเท่าที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอสอบถาม ส่วนเรื่องใบไม้ที่ติดเส้นผม และเรื่องเรือลำแรกที่เจอน้องแตงโม คือ เป็นของใครตนไม่ทราบ แต่ในวันนั้นตนได้ขับวนตรงเวิ้งน้ำนั้นประมาณ 1 ชม. แล้วก็ได้ไปที่วัดแดงธรรมชาติ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี เพราะมีคนบอกว่าให้ไปขอพรที่นั่นเพราะศักดิ์สิทธิ์มาก ก็เลยขับเรือไปถึง 5 นาที จุดธูปขอให้เจอร่างน้องแตงโม พอขอพรเสร็จก็ขับเรือออกมาไม่ถึง 3 นาที ก็เห็นเรือเสี่ยคนนั้นลอยแม่น้ำมาแล้วหยุดตรงกลางแม่น้ำ ซึ่งที่ตนเองมองจากไกล ๆ ก็เห็นเรือหลายลำทั้งเรือมูลนิธิ และเรืออาสาสมัครมุ่งหน้าไปตรงนั้น จนได้ยินเสียงคนโวยวายว่าเจอแล้ว ตนเลยขับเรือเข้าไปถึงเรือลำนั้น และตนก็นำเรือไปเทียบกับเรือลำใหญ่ แต่ก็โดนต่อว่าว่าเรือตนไปกระแทกเขา แต่วันนั้นลูกน้องตนเป็นคนขับเรือ ตนก็ขอโทษ แล้วไปขึ้นเรือกับเรืออาสาจนไปถึงร่างน้องที่ลอยคว่ำหน้าในน้ำ และมีเพียงผ้าดิบที่อาสาสมัครเตรียมไว้จะผูกร่างน้องเพื่อขึ้นฝั่ง แต่ตนมองว่าน้องแตงโมจะโป๊ได้ เพราะน้องใส่แค่บอดี้สูท จึงขอผ้าดิบ 2 ผืนเพื่อพาน้องขึ้นฝั่งแทน จะลากไว้ข้างเรือไม่ได้ เลยเอาขึ้นเบาะและใช้ผ้าดิบคลุมร่างไว้ นายเอกพันธ์ เปิดเผยอีกว่า ต้องยอมรับว่าเราขับวนหากันหลายวัน มีทั้งเรืออาสาสมัคร เรือมูลนิธิกว่า 50 ลำ ค้นกันนานก็ไม่เจอ แต่เรือลำใหญ่มาไม่นาน วน 2-3 รอบ เขากลับเจอ ซึ่งพอเรือลำใหญ่เจอ เรืออื่นทุกลำก็มุ่งหน้าไปที่ตรงเรือลำใหญ่กันว่าเจอร่างหรืออะไร อย่างไร พอไปถึงจึงเห็นว่าเป็นร่างน้องแตงโม ทั้งนี้ ต่อให้ตนเล่ากี่ครั้งมันก็ยังเหมือนเดิมตามสิ่งที่ได้เห็นได้เจอ นอกจากนี้ ในเรื่องที่เจ้าหน้าที่ได้รับโทรศัพท์มือถือแตงโมกลับมา ตนมองว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้กระจ่างได้บ้าง หากนำไปเทียบกับคำให้การของคน บนเรือ นายเอกพันธ์ เปิดเผยว่า ในวันที่เจ้าหน้าที่ให้ตนช่วยพลิกร่างน้องแตงโม ตนยืนยันว่าตนเห็นมีฟันซี่บนหักแน่นอน ไม่น่าใช่คราบดินโคลน ส่วนการแต่งกายของร่างน้องตอนเจอคว่ำหน้าในน้ำ เสื้อผ้าชุดคลุมจะถูกนำมาสวมตอนไหนนั้น ตนไม่ทราบ แต่มันมีใบไม้ 2-3 ใบ ติดอยู่บนเส้นผม ซึ่งอาจลอยมาจากน้ำแล้วมาติดที่ผมก็เป็นได้ เพราะเศษต่าง ๆ มันอาจลอยติดที่เส้นผมแล้วออกยากต้องใช้มือรูด แต่ถ้าติดหลังหรือเสื้อผ้ามันน่าจะโดนน้ำพัดออกไปบ้าง ทั้งนี้ ในอีก 11 วันก็จะครบรอบการเสียชีวิตของน้อง ตนมองว่าคนทั่วประเทศรออยู่ รอลุ้นทุกวัน ลุ้นข้อมูลใหม่ให้มีปาฏิหาริย์จริง ๆ ว่าคืนวันที่ 24 ก.พ.65 มันเกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรน้อง มั่นใจว่าคนไทยให้กำลังใจคนที่พยายามค้นหาความจริงอยู่ นายเอกพันธ์ กล่าวปิดอีกว่า ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์มีเบอร์แปลก ๆ โทรมาเยอะจนตนต้องปิดมือถือ หากใครที่ตนไม่ได้เม็มชื่อก็จะไม่รับสาย แต่ก็ยังไม่มีใครข่มขู่ตน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากที่นายเอกพันธ์ได้ให้สัมภาษณ์สื่อเสร็จสิ้น ก็ได้เดินเข้าห้องคณะพนักงานสืบสวนเพื่อเตรียมให้ข้อมูลกับ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน โดยทาง พ.ต.ต.ณฐพล ระบุกับสื่อว่า อาจใช้เวลาในการสอบถามข้อมูลจากนายเอกพันธ์เพียงไม่นาน หากเสร็จสิ้นแล้วจะออกมาให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนต่อไป นายเอกพันธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เวลาประมาณ 22.40 น. ของคืนเกิดเหตุ ทีมมูลนิธิได้รับแจ้งจากชาวบ้านผ่านศูนย์วชิระว่ามี "คนผลัดตกเรือขนทราย" จึงอยากให้มาตรวจสอบแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นน้องแตงโม และเมื่อทีมมูลนิธิไปถึงจุดรับแจ้งเหตุก็ไม่พบอะไร ซึ่งน้องในทีมเล่าให้ตนฟังว่าได้สอบถามชาวบ้านมีเรือลำหนึ่งขับวนไปมา ต่อมา ทีมมูลนิธิฯ เรียกตำรวจมาช่วยตรวจสอบจึงใช้ไฟฉายเรียกเรือลำดังกล่าวเข้าฝั่งสอบถามเหตุการณ์คนตกเรือ แต่ในเรือลำนั้นมีคนคล้ายลักษณะผู้หญิงบอกว่าเป็นน้องแตงโม จากนั้น มีการเตรียมทีมนักประดาน้ำช่วยค้นหากันทั้งคืน บริเวณท่าน้ำพิบูลสงคราม สำหรับเรือขนทรายในตอนนั้นไม่มีชาวบ้านเห็นพบเพียงแค่เรือลำนั้นขับวนอยู่ลำเดียว ต่อข่าวแตงโม เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 13 ก.พ. ที่ ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดเผยหลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ว่า ตนเองมาให้รายละเอียดเกี่ยวกับร่างของน้องแตงโมในวันแรก เน้นเรื่องบาดแผลเป็นสำคัญและเกี่ยวกับวัสดุที่มาทำลายน้อง ซึ่งย้ำว่าเป็นใบพัดเรือใช่หรือไม่ ตนยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่เกิดจากใบพัดเรือแน่นอน รวมทั้ง มีรอยแผลตามร่างกายที่ดีเอสไอนำภาพมาให้ดูคล้ายกับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้นอาจเกิดจากการนำขาน้องแตงโมไปทดลองกับใบพัดเรือว่าหากโดนจริงๆ แล้วจะเป็นอย่างไร ส่วนลักษณะที่ตนเห็นน้องแตงโมตั้งแต่นำร่างขึ้นมาครั้งแรกกับภาพที่จำลองมีความแตกต่างกันมากจึงพูดคุยรายละเอียดค่อนข้างเยอะ นายเอกพันธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เวลาประมาณ 22.40 น. ของคืนเกิดเหตุ ทีมมูลนิธิได้รับแจ้งจากชาวบ้านผ่านศูนย์วชิระว่ามี "คนผลัดตกเรือขนทราย" จึงอยากให้มาตรวจสอบแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นน้องแตงโม และเมื่อทีมมูลนิธิไปถึงจุดรับแจ้งเหตุก็ไม่พบอะไร ซึ่งน้องในทีมเล่าให้ตนฟังว่าได้สอบถามชาวบ้านมีเรือลำหนึ่งขับวนไปมา ต่อมา ทีมมูลนิธิฯ เรียกตำรวจมาช่วยตรวจสอบจึงใช้ไฟฉายเรียกเรือลำดังกล่าวเข้าฝั่งสอบถามเหตุการณ์คนตกเรือ แต่ในเรือลำนั้นมีคนคล้ายลักษณะผู้หญิงบอกว่าเป็นน้องแตงโม จากนั้น มีการเตรียมทีมนักประดาน้ำช่วยค้นหากันทั้งคืน บริเวณท่าน้ำพิบูลสงคราม สำหรับเรือขนทรายในตอนนั้นไม่มีชาวบ้านเห็นพบเพียงแค่เรือลำนั้นขับวนอยู่ลำเดียว นายเอกพันธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเครื่องประดับของน้องแตงโมพบว่ามีทั้ง สร้อยคอ ตุ้มหู ยังอยู่ครบ และประสบการณ์ที่ตนเคยเก็บศพในน้ำมาเยอะนั้นสภาพผิวหนังจะรู้ว่าเป็นอย่างไร แต่น้องแตงโมท่อนล่างช่วงขาจะขาวไม่มีร่องรอยแช่น้ำถึง 2 วันเพราะขาเนียนมากเพิ่งเสียชีวิตใหม่ๆ แต่ท่อนบนบริเวณใบหน้าจะเละ หน้าอกบอบช้ำ หากคนจมน้ำจริงๆ ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จะมีสภาพคล้ายกันหมดทั้งร่างกาย อีกทั้งกรณีเชือกที่พบเป็นของทีมมูลนิธิอาสาสมัครจริงเอาไว้กู้ภัยช่วยเหลือคดีคนจมน้ำเสียชีวิตเพราะป้องกันร่างลอยตามกระแสน้ำ นายเอกพันธ์ กล่าวอีกว่า ตนมาให้ปากคำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเป็นครั้งแรก มีภาพประกอบจึงมีความแม่นยำและจำได้ รวมทั้ง คนบนเรือเสี่ยคนหนึ่งจำได้ว่ามีลูกน้อง 3 คนที่พบร่างน้องแตงโมแต่การช่วยเหลืออาจผิดลักษณะเพราะห้ามแตะร่างอาจมีดีเอ็นเอปนเปื้อน ซึ่งจริงแล้วต้องเเจ้งตำรวจให้ตรวจสอบ ส่วนตอนตำรวจทำคดีไม่เคยเรียกสอบปากคำ แต่เคยคุยโทรศัพท์กับ อดีต ผบช.ภ.1 ว่าตนพูดในสิ่งที่เห็นเท่านั้น สำหรับบาดแผลโคนขาขวาต้องเป็นมีดลักษณะมีรอยหยักเพราะหนังมีรอยยุ่ย ไม่ใช่มีดปกติแน่นอน นอกจากนี้ ดีเอสไอมีเบอร์ทีมมูลนิธิอาสาสมัคร เพื่อจะเรียกมาสอบในประเด็นต่างๆ รวมถึงกรณีใครเป็นคนให้เปลี่ยนไม่ต้องส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แต่ให้ส่งไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ด้วย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เรียกสอบปากคำ นายเอกพันธ์ กรณีพบร่างของแตงโมตั้งแต่แรกมาให้รายละเอียดถึงการพบศพก่อนนำส่งไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและประสบการณ์การทำงานเก็บร่างที่ผ่านมา รวมทั้ง คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอชุดทำสำนวนเดิมคดีแตงโม เมื่อ 3 ปีก่อน ได่ส่งมอบสำนวนที่ทำไว้แล้วมาให้พนักงานชุดใหม่ซึ่งพบว่าสำนวนครบถ้วนตามขั้นตอนกระบวนการสอบสวน พร้อมทั้งคณะทำงานชุดใหม่และชุดเก่ามาช่วยตรวจสอบร่วมกัน ประมาณ 5 แฟ้ม เพื่อจะนำมารวมกับสำนวนสอบสวนใหม่ต่อไป พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยอีกว่า ในวันที่ 17 ก.พ. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จะทำการตรวจที่เกิดเหตุใช้ระบบวิทยาศาสตร์ นิติวิทยาศาสตร์บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมี 8 จุดที่ผู้ร้องสงสัย จะมีการใช้โซนาร์ของกรมชลประทานมาช่วยตรวจใต้น้ำ และสแกนจุดที่สงสัยว่าคืออะไร มีเรือเจ้าหน้าที่ 5 ลำ รวมทั้ง บริเวณฝั่งที่ยังสงสัยด้วยเช่นกันเพื่อหาข้อเท็จจริงว่าสอดคล้องกับคำให้การไว้หรือไม่ ส่วนเรื่องเรือขนทรายที่ได้รับข้อมูลนั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยอีกว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ มีเชิญคุณแม่น้องแตงโม มาให้ข้อมูลแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนหนุ่ม กรรชัย ได้มอบทีมงานส่งคลิปรายการโหนกระแส 27 คลิปแก่ดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเชิญหนุ่ม กรรชัย มาอีก หลังจากนี้จะเรียกคนบันเทิงมาให้ข้อมูลหรือไม่นั้นต้องขอตรวจสอบตามพยานหลักฐานก่อนว่าหากมีใครเกี่ยวข้องก็จะเรียกมาให้ข้อมูลเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยอีกว่า ส่วนมือถือแตงโม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ต้องมีการเข้าแล็ปว่าใช่มือถือของแตงโมหรือไม่ นอกจากนี้ ในประเด็นคนชื่อ "อลิส" ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของ 3 คลิปที่เผยแพร่นั้น ผู้ร้องภาคประชาชนอยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริง ต่อข่าวแตงโม เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 13 ก.พ. ที่ ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดเผยหลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ว่า ตนเองมาให้รายละเอียดเกี่ยวกับร่างของน้องแตงโมในวันแรก เน้นเรื่องบาดแผลเป็นสำคัญและเกี่ยวกับวัสดุที่มาทำลายน้อง ซึ่งย้ำว่าเป็นใบพัดเรือใช่หรือไม่ ตนยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่เกิดจากใบพัดเรือแน่นอน รวมทั้ง มีรอยแผลตามร่างกายที่ดีเอสไอนำภาพมาให้ดูคล้ายกับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้นอาจเกิดจากการนำขาน้องแตงโมไปทดลองกับใบพัดเรือว่าหากโดนจริงๆ แล้วจะเป็นอย่างไร ส่วนลักษณะที่ตนเห็นน้องแตงโมตั้งแต่นำร่างขึ้นมาครั้งแรกกับภาพที่จำลองมีความแตกต่างกันมากจึงพูดคุยรายละเอียดค่อนข้างเยอะ นายเอกพันธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เวลาประมาณ 22.40 น. ของคืนเกิดเหตุ ทีมมูลนิธิได้รับแจ้งจากชาวบ้านผ่านศูนย์วชิระว่ามี "คนผลัดตกเรือขนทราย" จึงอยากให้มาตรวจสอบแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นน้องแตงโม และเมื่อทีมมูลนิธิไปถึงจุดรับแจ้งเหตุก็ไม่พบอะไร ซึ่งน้องในทีมเล่าให้ตนฟังว่าได้สอบถามชาวบ้านมีเรือลำหนึ่งขับวนไปมา ต่อมา ทีมมูลนิธิฯ เรียกตำรวจมาช่วยตรวจสอบจึงใช้ไฟฉายเรียกเรือลำดังกล่าวเข้าฝั่งสอบถามเหตุการณ์คนตกเรือ แต่ในเรือลำนั้นมีคนคล้ายลักษณะผู้หญิงบอกว่าเป็นน้องแตงโม จากนั้น มีการเตรียมทีมนักประดาน้ำช่วยค้นหากันทั้งคืน บริเวณท่าน้ำพิบูลสงคราม สำหรับเรือขนทรายในตอนนั้นไม่มีชาวบ้านเห็นพบเพียงแค่เรือลำนั้นขับวนอยู่ลำเดียว นายเอกพันธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเครื่องประดับของน้องแตงโมพบว่ามีทั้ง สร้อยคอ ตุ้มหู ยังอยู่ครบ และประสบการณ์ที่ตนเคยเก็บศพในน้ำมาเยอะนั้นสภาพผิวหนังจะรู้ว่าเป็นอย่างไร แต่น้องแตงโมท่อนล่างช่วงขาจะขาวไม่มีร่องรอยแช่น้ำถึง 2 วันเพราะขาเนียนมากเพิ่งเสียชีวิตใหม่ๆ แต่ท่อนบนบริเวณใบหน้าจะเละ หน้าอกบอบช้ำ หากคนจมน้ำจริงๆ ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จะมีสภาพคล้ายกันหมดทั้งร่างกาย อีกทั้งกรณีเชือกที่พบเป็นของทีมมูลนิธิอาสาสมัครจริงเอาไว้กู้ภัยช่วยเหลือคดีคนจมน้ำเสียชีวิตเพราะป้องกันร่างลอยตามกระแสน้ำ นายเอกพันธ์ กล่าวอีกว่า ตนมาให้ปากคำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเป็นครั้งแรก มีภาพประกอบจึงมีความแม่นยำและจำได้ รวมทั้ง คนบนเรือเสี่ยคนหนึ่งจำได้ว่ามีลูกน้อง 3 คนที่พบร่างน้องแตงโมแต่การช่วยเหลืออาจผิดลักษณะเพราะห้ามแตะร่างอาจมีดีเอ็นเอปนเปื้อน ซึ่งจริงแล้วต้องเเจ้งตำรวจให้ตรวจสอบ ส่วนตอนตำรวจทำคดีไม่เคยเรียกสอบปากคำ แต่เคยคุยโทรศัพท์กับ อดีต ผบช.ภ.1 ว่าตนพูดในสิ่งที่เห็นเท่านั้น สำหรับบาดแผลโคนขาขวาต้องเป็นมีดลักษณะมีรอยหยักเพราะหนังมีรอยยุ่ย ไม่ใช่มีดปกติแน่นอน นอกจากนี้ ดีเอสไอมีเบอร์ทีมมูลนิธิอาสาสมัคร เพื่อจะเรียกมาสอบในประเด็นต่างๆ รวมถึงกรณีใครเป็นคนให้เปลี่ยนไม่ต้องส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แต่ให้ส่งไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ด้วย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เรียกสอบปากคำ นายเอกพันธ์ กรณีพบร่างของแตงโมตั้งแต่แรกมาให้รายละเอียดถึงการพบศพก่อนนำส่งไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและประสบการณ์การทำงานเก็บร่างที่ผ่านมา รวมทั้ง คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอชุดทำสำนวนเดิมคดีแตงโม เมื่อ 3 ปีก่อน ได่ส่งมอบสำนวนที่ทำไว้แล้วมาให้พนักงานชุดใหม่ซึ่งพบว่าสำนวนครบถ้วนตามขั้นตอนกระบวนการสอบสวน พร้อมทั้งคณะทำงานชุดใหม่และชุดเก่ามาช่วยตรวจสอบร่วมกัน ประมาณ 5 แฟ้ม เพื่อจะนำมารวมกับสำนวนสอบสวนใหม่ต่อไป พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยอีกว่า ในวันที่ 17 ก.พ. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จะทำการตรวจที่เกิดเหตุใช้ระบบวิทยาศาสตร์ นิติวิทยาศาสตร์บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมี 8 จุดที่ผู้ร้องสงสัย จะมีการใช้โซนาร์ของกรมชลประทานมาช่วยตรวจใต้น้ำ และสแกนจุดที่สงสัยว่าคืออะไร มีเรือเจ้าหน้าที่ 5 ลำ รวมทั้ง บริเวณฝั่งที่ยังสงสัยด้วยเช่นกันเพื่อหาข้อเท็จจริงว่าสอดคล้องกับคำให้การไว้หรือไม่ ส่วนเรื่องเรือขนทรายที่ได้รับข้อมูลนั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยอีกว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ มีเชิญคุณแม่น้องแตงโม มาให้ข้อมูลแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนหนุ่ม กรรชัย ได้มอบทีมงานส่งคลิปรายการโหนกระแส 27 คลิปแก่ดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเชิญหนุ่ม กรรชัย มาอีก หลังจากนี้จะเรียกคนบันเทิงมาให้ข้อมูลหรือไม่นั้นต้องขอตรวจสอบตามพยานหลักฐานก่อนว่าหากมีใครเกี่ยวข้องก็จะเรียกมาให้ข้อมูลเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยอีกว่า ส่วนมือถือแตงโม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ต้องมีการเข้าแล็ปว่าใช่มือถือของแตงโมหรือไม่ นอกจากนี้ ในประเด็นคนชื่อ "อลิส" ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของ 3 คลิปที่เผยแพร่นั้น ผู้ร้องภาคประชาชนอยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริง นายเอกพันธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเครื่องประดับของน้องแตงโมพบว่ามีทั้ง สร้อยคอ ตุ้มหู ยังอยู่ครบ และประสบการณ์ที่ตนเคยเก็บศพในน้ำมาเยอะนั้นสภาพผิวหนังจะรู้ว่าเป็นอย่างไร แต่น้องแตงโมท่อนล่างช่วงขาจะขาวไม่มีร่องรอยแช่น้ำถึง 2 วันเพราะขาเนียนมากเพิ่งเสียชีวิตใหม่ๆ แต่ท่อนบนบริเวณใบหน้าจะเละ หน้าอกบอบช้ำ หากคนจมน้ำจริงๆ ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จะมีสภาพคล้ายกันหมดทั้งร่างกาย อีกทั้งกรณีเชือกที่พบเป็นของทีมมูลนิธิอาสาสมัครจริงเอาไว้กู้ภัยช่วยเหลือคดีคนจมน้ำเสียชีวิตเพราะป้องกันร่างลอยตามกระแสน้ำ นายเอกพันธ์ กล่าวอีกว่า ตนมาให้ปากคำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเป็นครั้งแรก มีภาพประกอบจึงมีความแม่นยำและจำได้ รวมทั้ง คนบนเรือเสี่ยคนหนึ่งจำได้ว่ามีลูกน้อง 3 คนที่พบร่างน้องแตงโมแต่การช่วยเหลืออาจผิดลักษณะเพราะห้ามแตะร่างอาจมีดีเอ็นเอปนเปื้อน ซึ่งจริงแล้วต้องเเจ้งตำรวจให้ตรวจสอบ ส่วนตอนตำรวจทำคดีไม่เคยเรียกสอบปากคำ แต่เคยคุยโทรศัพท์กับ อดีต ผบช.ภ.1 ว่าตนพูดในสิ่งที่เห็นเท่านั้น สำหรับบาดแผลโคนขาขวาต้องเป็นมีดลักษณะมีรอยหยักเพราะหนังมีรอยยุ่ย ไม่ใช่มีดปกติแน่นอน นอกจากนี้ ดีเอสไอมีเบอร์ทีมมูลนิธิอาสาสมัคร เพื่อจะเรียกมาสอบในประเด็นต่างๆ รวมถึงกรณีใครเป็นคนให้เปลี่ยนไม่ต้องส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แต่ให้ส่งไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ด้วย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เรียกสอบปากคำ นายเอกพันธ์ กรณีพบร่างของแตงโมตั้งแต่แรกมาให้รายละเอียดถึงการพบศพก่อนนำส่งไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและประสบการณ์การทำงานเก็บร่างที่ผ่านมา รวมทั้ง คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอชุดทำสำนวนเดิมคดีแตงโม เมื่อ 3 ปีก่อน ได่ส่งมอบสำนวนที่ทำไว้แล้วมาให้พนักงานชุดใหม่ซึ่งพบว่าสำนวนครบถ้วนตามขั้นตอนกระบวนการสอบสวน พร้อมทั้งคณะทำงานชุดใหม่และชุดเก่ามาช่วยตรวจสอบร่วมกัน ประมาณ 5 แฟ้ม เพื่อจะนำมารวมกับสำนวนสอบสวนใหม่ต่อไป พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยอีกว่า ในวันที่ 17 ก.พ. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จะทำการตรวจที่เกิดเหตุใช้ระบบวิทยาศาสตร์ นิติวิทยาศาสตร์บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมี 8 จุดที่ผู้ร้องสงสัย จะมีการใช้โซนาร์ของกรมชลประทานมาช่วยตรวจใต้น้ำ และสแกนจุดที่สงสัยว่าคืออะไร มีเรือเจ้าหน้าที่ 5 ลำ รวมทั้ง บริเวณฝั่งที่ยังสงสัยด้วยเช่นกันเพื่อหาข้อเท็จจริงว่าสอดคล้องกับคำให้การไว้หรือไม่ ส่วนเรื่องเรือขนทรายที่ได้รับข้อมูลนั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยอีกว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ มีเชิญคุณแม่น้องแตงโม มาให้ข้อมูลแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนหนุ่ม กรรชัย ได้มอบทีมงานส่งคลิปรายการโหนกระแส 27 คลิปแก่ดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเชิญหนุ่ม กรรชัย มาอีก หลังจากนี้จะเรียกคนบันเทิงมาให้ข้อมูลหรือไม่นั้นต้องขอตรวจสอบตามพยานหลักฐานก่อนว่าหากมีใครเกี่ยวข้องก็จะเรียกมาให้ข้อมูลเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยอีกว่า ส่วนมือถือแตงโม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ต้องมีการเข้าแล็ปว่าใช่มือถือของแตงโมหรือไม่ นอกจากนี้ ในประเด็นคนชื่อ "อลิส" ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของ 3 คลิปที่เผยแพร่นั้น ผู้ร้องภาคประชาชนอยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริง